HOME
ABOUT US
MEET THE TEAM
SERVICE
PROJECTS
CONTACT US
BLOG
บทบาทของงานออกแบบโครงสร้างในงานระบบอาคาร
งานออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรมโยธา
งาน
ออกแบบโครงสร้าง
เป็นงานวิศวกรรมโยธาที่ต้องการความเชี่ยวชาญสูง ซึ่ง
วิศวกรออกแบบโครงสร้าง
จะได้รับการฝึกฝนมาให้มีความเข้าใจและสามารถคำนวณความมั่นคง, ความแข็งแรง, และความแข็งแกร่งของโครงสร้างของสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเปรียบได้กับการออกแบบส่วนของ 'กระดูกและกล้ามเนื้อ' เพื่อสร้างรูปทรงของมนุษย์ออกมา วิศวกรเหล่านี้จะใช้วิธีการหรือเครื่องมือที่มีความเฉพาะเพื่อทำให้โครงสร้างที่ออกแบบมามีความปลอดภัยและคุ้มค่า อีกทั้งมีความแข็งแรงมากพอในการรองรับนำหนักที่กำหนดไว้ได้
นักออกแบบโครงสร้างของอาคารมักให้ความสำคัญกับความแข็งแรง, ความทนทาน, และความปลอดภัยของอาคารโดยยึดตามทฤษฎีและกฎทางกายภาพ เพื่อพิจารณาว่าแรงภายในและภายนอก รวมถึงผังของอาคารจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของอาคารหรือไม่ จากนั้นจะมีการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมมาใช้เสริมโครงสร้างของอาคารเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังที่ได้กล่าวไว้
งานออกแบบตามการใช้งาน vs. งานออกแบบโครงสร้าง
โครงสร้างที่มีการออกแบบมาต้องตอบสนองวัตถุประสงค์ในการใช้งานขั้นพื้นฐานและมีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งควรมีสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกอาคารที่เหมาะสม ดังนั้นการออกแบบตามการใช้งานของอาคารจึงต้องมีการคำนึงถึงการจัดห้อง/โถงที่มีความเหมาะสม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น การระบายอากาศที่ดี, แสงไฟ, หรือเสียง ฯลฯ
กระบวนการของงานออกแบบโครงสร้างจะเริ่มต้นหลังการเลือกรูปแบบของโครงสร้างเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแท้ที่จริงแล้วการออกแบบโครงสร้างถือเป็นการผสมผสานกันระหว่างศาสตร์ศิลปะและวิทยาศาสตร์ เนื่องจากต้องมีการทำความเข้าใจโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนัก และต้องออกแบบให้มีความคุ้มค่าและสวยงามในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ได้โครงสร้างที่ปลอดภัยและมีความทนทาน โดยบางครั้งงานออกแบบโครงสร้างอาจรวมถึงการออกแบบเครื่องจักร, อุปกรณ์ทางการแพทย์, และยานพาหนะที่ต้องอาศัยความสมบูรณ์ของโครงสร้างเพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย
ขั้นตอนของงานออกแบบโครงสร้าง
วิศวกรออกแบบโครงสร้างควรคำนึงถึงคุณสมบัติที่สำคัญสามประการนี้ที่ เพื่อให้โครงสร้างมีความมั่นคงและปลอดภัย
ขนาด (ขนาดของแรงที่กระทำกับโครงสร้าง)
ทิศทาง (ทิศทางของแรง เช่น ลมแรงอาจพัดเข้าที่ด้านข้างของอาคาร หรือน้ำหนักของหิมะที่ตกลงมากระทบอาคารอย่างหนักตามแรงโน้มถ่วง จากนั้นพิจารณาเลือกวัสดุและวัสดุเสริมแรงประเภทต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับแรงแต่ละชนิด)
ตำแหน่ง (ตำแหน่งที่แรงมากระทำ โดยนักออกแบบโครงสร้างต้องประเมินผลกระทบของแรงที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละตำแหน่ง)
โครงสร้างที่ออกแบบต้องอยู่นิ่งจึงจะมีความมั่นคง ดังนั้นผลรวมของกำลังที่กระทำกับโครงสร้างต้องเท่ากับศูนย์เสมอปัจจัยต่อไปที่ควรพิจารณาคือแรงภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงจากสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งของ เช่น ผู้พักอาศัยและเฟอร์นิเจอร์ หรือแรงด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ลม, หิมะ, และแผ่นดินไหวการเลือกวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมต้องดูที่ความแข็งแรง (แรงต้านของวัสดุที่มีต่อความเค้นหรือน้ำหนักที่มากดทับ), ความเหนียว (ความทนต่อการแตกร้าว), ความยืดหยุ่น (สามารถยืดได้และคืนรูปเดิมได้), และความเป็นพลาสติก (ความสามารถของวัสดุในการเปลี่ยนรูปโดยไม่มีการแตกหัก)
Sources
https://en.wikipedia.org/wiki/Structural_engineering
https://esub.com/what-is-structural-design-in-civil-engineering
https://theconstructor.org/structural-engg/types-structural-design-process/1673/
11-thewisdomconsultants_com-MTTA-LAYLA
บทความที่น่าสนใจ
6 ประโยชน์สำหรับวิศวกรที่เข้าใจหลักการบริหารโครงการ
วิศวกรรมเครื่องกลในอุตสาหกรรมก่อสร้าง
Internet of Things (IoT)
มาตรฐานการผลิตของอุตสาหกรรมอาหาร
10 เหตุผลที่จะอธิบายว่าทำไมโครงการของคุณจึงต้องการที่ปรึกษาด้าน MEP
ที่ปรึกษาด้านการบริการวิศวกรรม: เลือกบริษัทที่เหมาะสมโดยการทำความเข้าใจกับวิธีการทำงานของพวกเขา
เลือกที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมสำหรับโปรเจ็คของคุณอย่างไรให้โดนใจ
บทบาทของงานออกแบบโครงสร้างในงานระบบอาคาร
นโยบาย
นโยบายการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน
นโยบายการจัดส่งสินค้า
นโยบายการชำระเงิน
นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายความปลอดภัย
เวลาทำการ
จ-ศ: 8:00-17:00
ส-อา: ปิดทำการติดต่อเรา
ติดต่อด้วยอีเมล์ :
info@thewisdomconsultants.com
เบอร์โทร :
02-136-1388
085-135-7590
063-662-5265
Design by Genius
Copyright © 2020 The Wisdom Consultants